วันพฤหัสบดีที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

นวดกดจุดผิวหน้าคืนความสมดุล

นวดกดจุดบนใบหน้า ทางเลือกแก้นอนไม่หลับ

       การนอนหลับ ถือเป็นปัญหาสำคัญที่เราต้องตระหนัก เพราะการนอนหลับที่ดีหรือการนอนที่มีคุณภาพ จะช่วยให้ตื่นมาอย่างสดชื่น มีสุขภาพแข็งแรง หากการนอนนั้นไม่มีคุณภาพ เราจะรู้สึกวิงเวียน ไม่สดชื่น และไม่กระปรี้กระเปร่า ซึ่งหากเป็นเรื้อรัง จะส่งผลต่อระบบต่างๆ ในร่างกาย อาจมีอาการเบื่ออาหาร ทานอาหารไม่อร่อย และสุดท้ายอาจกระทบต่อความสมดุลของร่างกาย
การนวดกดจุดบนใบหน้า 
       มิใช่เพียงช่วยให้นอนหลับได้เท่านั้น แต่ยังสามารถช่วยให้ผ่อนคลาย และปรับสมดุลของอวัยวะต่างๆ ในร่ายกาย เนื่องจากบริเวณใบหน้ามีจุดที่เป็นตัวแทนอวัยวะต่างๆ ของร่างกาย เช่น 
** บริเวณกึ่งกลางระหว่างคิ้ว เป็นที่ตั้งของต่อมไพเนียล (Pineal gland) ตัวสร้างฮอร์โมนเมลาโทนิน (Melatonin) ที่ช่วยให้นอนหลับสบาย นอกจากนี้ยังมีต่อมพิทูอิทารี (Pituitary Gland) กระตุ้นให้มีการหลั่งสาร endorphin ทำให้คลายเครียดและหลับสบาย
** บริเวณใต้ตาเป็นตัวแทนของไต การกดนวดบริเวณนี้จะช่วยปรับสมดุลการทำงานของไต ที่ขับของเสียออกจากร่างกาย ** ต่ำลงมา คือ บริเวณโหนกแก้ม เป็นที่อยู่ของลำไส้ใหญ่ 
** ยอดปลายจมูก คือ กระเพาะอาหาร 
** บริเวณมุมปาก เป็นที่อยู่ของปอด
     นอกจากนี้ บริเวณใบหน้ายังมีผิวหนังปกคลุม และป้องกันเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย มีรูขุมขนเป็นตัวระบายเหงื่อและสารพิษต่างๆ มีระบบไหลเวียนโลหิต และระบบน้ำเหลืองด้วย ดังนั้น การนวดกดจุดบนใบหน้าจึงเป็นการปรับสมดุลของอวัยวะต่างๆ และเป็นการดีท็อกซ์หรือขับของเสียออกทางผิวหนังด้วยในเวลาเดียวกัน ช่วยทำให้ผิวพรรณดูผ่องใส หรือทำให้ร่างกายของเรามีความงามจากภายนอกด้วย
ไม่เพียงเท่านั้น การนวดกดจุดบนใบหน้ายังช่วยแก้ปัญหาโรคไมเกรน โรคกล้ามเนื้อใบหน้าอ่อนแรง โดยสามารถช่วยผู้ป่วยอัมพฤกษ์ที่มีกล้ามเนื้อบริเวณใบหน้าอ่อนแรง ฟื้นคืนสู่สภาพปกติเร็วขึ้น จากผลการวิจัยนวดกดจุดบนใบหน้าในผู้สูงอายุที่มีปัญหานอนไม่หลับสรุปว่า ช่วยให้ผู้สูงอายุมีคุณภาพการนอนดีขึ้น หลับสบาย ตื่นมาสดชื่น นอกจากนี้ ภายหลังการนวดยังเห็นการเปลี่ยนแปลงของผิวพรรณว่า ขาวผ่อง มีนวลใยกว่าเดิม เป็นการสร้างความพึงพอใจให้กับผู้สูงอายุในด้านจิตใจ ซึ่ง

ขั้นตอนในการนวดกดจุดบริเวณใบหน้ามีขั้นตอนดังต่อไปนี้
ขั้นตอนที่ 1: ล้างเครื่องสำอางและแป้งด้วยสบู่เหลวอย่างอ่อน ที่ไม่ระคายเคือง โดยใช้สบู่แต้ม 5 จุด คือ หน้าผาก แก้มทั้งสองข้าง จมูก และคาง (เว้นรอบดวงตา) ล้างแบบนวดวนให้ทั่ว แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด โดยใช้ผ้าเช็ดหรือฟองน้ำสำหรับทำความสะอาด
ขั้นตอนที่ 2: แต้มครีมนวดหน้า 5 จุด คือ หน้าผาก แก้มทั้งสองข้าง จมูก และคาง (เว้นรอบดวงตา) นวดวนให้ทั่ว เริ่มบริเวณแรกตรงหน้าผาก โดยใช้นิ้วหัวแม่มือนวดวนแล้วลากเป็นแนวยาวจรดขมับทั้งสองข้าง ซึ่งมีเส้นเลือดแดงใหญ่ เป็นการกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตบนใบหน้า และหลีกเลี่ยงการขยี้บริเวณเส้นเลือดแถวขมับเพื่อป้องกันการอักเสบ
จุดต่อมา คือ บริเวณใต้ตา ใกล้สันจมูก และบริเวณปีกจมูก ให้นวดลากเป็นแนวยาวจรดยังขมับทั้งสองข้าง แล้วนวดบริเวณแก้มลากยกขึ้นไปถึงขมับ จากนั้นจึงนวดใต้จมูกหรือเหนือริมฝีปากด้วยสันนิ้วก้อย นวดใต้คางโดยใช้หัวแม่มือ และอีกสี่นิ้วบีบเข้าหากันเบาๆ หลังจากนั้นจึงใช้มือทั้งสองลูบโกยคางขึ้น ใช้สี่นิ้วกดนวดขากรรไกรทั้งสองข้าง
ขั้นตอนที่ 3: กดนวดต่อมน้ำเหลืองหลังหู หน้าหู และติ่งหู ใบหู แต่ไม่แยงนิ้วในรูหู เมื่อครบรอบจึงกลับไปนวดคลึงดวงตาหรือระหว่างคิ้ว จุดที่เป็นจุดของ Pineal gland เพื่อกระตุ้นการหลั่ง Melatonin สุดท้ายจึงวนไปกดต่อมน้ำเหลืองหลังหู หน้าหู และติ่งหู ใบหูอีกครั้ง เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนระบบน้ำเหลืองบนใบหน้า
ขั้นตอนสุดท้าย: ล้างครีมนวดหน้าออกให้สะอาดด้วยสบู่อีกครั้ง
ผศ.ดร.ลดาวัลย์ อุ่นประเสริฐพงศ์ นิชโรจน์
คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี


ติดตามสาระดีๆ เพิ่มเติมได้ที่ Aviance Lazada ครบเครื่องเรื่องความงาม
หรือ @Line มาคุยกันได้ที่ ID: BeeSirinoot

เติมน้ำมันสู่ผิวยามนิทรา เทรนด์ใหม่เพื่อผิวสวย

       
     หลายคนต่างคิดว่าผิวต้องการเพียงแค่น้ำเพื่อเติมความชุ่มชื่น และอาจเคยพบว่า แม้จะทาครีมบำรุงแบบจัดเต็มอย่างไรก็ยังพบกับปัญหาผิวแห้งอยู่ดี ภก. ดร. พงศกรพัฒน์ อรุโณทยานันท์  ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาความรู้ผลิตภัณฑ์ระดับนานาชาติ  อาวียองซ์ อะคาเดมี มีคำแนะนำดีๆ มาฝากคุณสาวที่อยากจะชุบชีวิต ผิวแห้งกร้าน ด้วยการเติมน้ำมันสู่ผิวยามนิทรา ซึ่งเป็นเทรนด์ใหม่มาให้สาวๆ ได้อัพเดทสู่การมีผิวสวย เนียนนุ่ม ชวนสัมผัส

        ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาความรู้ผลิตภัณฑ์ระดับนานาชาติ อาวียองซ์ อะคาเดมี ภก. ดร. พงศกรพัฒน์ อรุโณทยานันท์ 

เผยว่า 

     “การที่คุณสาวๆ ยังพบกับปัญหาผิวแห้งแม้ว่าจะบำรุงทาครีมแบบจัดเต็มนั้น เป็นเพราะว่าสาวๆ แก้ไขปัญหาได้ไม่ตรงจุด เพราะความชุ่มชื่นของผิวไม่ใช่แค่เรื่องของน้ำ แต่ กลไกสำคัญของการมีผิวชุ่มชื่น คือการที่ผิวมีความสมดุลของน้ำและน้ำมันในผิว ซึ่งปกติผิวหนังจะมีน้ำมันในชั้นผิว ประกอบด้วยกรดไขมันจำเป็นทำหน้าที่ป้องกันไม่ให้น้ำระเหยออกไปจากผิว แต่สำหรับผู้ที่มีผิวแห้ง หรือแม้แต่ผิวผสมและผิวมัน ซึ่งอาจสัมผัสแสงแดดหรือมลภาวะอยู่เสมอ พร้อมทั้งใช้สบู่ล้างหน้า พักผ่อนไม่เพียงพอ รวมถึงอายุที่เพิ่มขึ้น ผิวจะค่อยๆ สูญเสียน้ำมันภายในผิวไป ทำให้ชั้นผิวหนังขาดเกราะป้องกัน ไม่สามารถกักเก็บน้ำในชั้นผิวไว้ได้ ดังนั้นต่อให้ประโคมมอยส์เจอร์ไรเซอร์เพื่อเติมน้ำให้ผิวแค่ไหน ผิวก็ไม่อาจคงความชุ่มชื่นได้อยู่ดี การคืนน้ำมันซึ่งเป็นกรดไขมันจำเป็นให้ผิว จึงเป็นคำตอบที่จะแก้ปัญหาผิวขาดความชุ่มชื่นได้อย่างตรงจุด"

Dermaceutical Essential Night Advanced Oil Serum

       เมื่อความสมดุลของน้ำและน้ำมันในผิวคือกุญแจสำคัญของผิวชุ่มชื่น อันจะทำให้ผิวแข็งแรงและต้านทานความร่วงโรยได้ดีขึ้น 

       วงการเครื่องสำอางชั้นนำจึงเร่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่จะช่วยคืนกรดไขมันจำเป็นให้กับผิว เกิดเป็นผลิตภัณฑ์แนวใหม่ที่เราอาจจะไม่คุ้นเคยนัก ในรูปแบบของเซรั่มเนื้ออยล์ (Oil Serum) โดยมักเป็นส่วนผสมของน้ำมันบริสุทธิ์สกัดจากพืชชนิดเดียวหรือพืชหลากหลายชนิด การเติมน้ำมันให้กับผิวเพิ่มเติมจากการใช้มอยซ์เจอร์ไรเซอร์ปกติซึ่งเน้นเติมน้ำให้ผิว จึงเป็นรูปแบบการบำรุงผิวแบบใหม่ที่สร้างสมดุลความชุ่มชื่นในผิวได้จริง และเริ่มได้รับความสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ เซรั่มเนื้อออยล์บางชนิดแนะนำให้ใช้ก่อนนอน ด้วยเหตุผลว่าช่วงเย็นของทุกวันเป็นช่วงเวลาที่ผิวกระหายความชุ่มชื่นมากที่สุด เพราะถูกทำร้ายจากสภาพแวดล้อมทั้งวัน แถมน้ำมันในผิวยังถูกชะล้างออกมากเป็นพิเศษ จากการล้างหน้าล้างเครื่องสำอาง นอกจากนี้นาฬิกาชีวิตของร่างกายได้กำหนดให้การนอนหลับในช่วง 22.00 น. ถึง 02.00 น. เป็นช่วงที่ร่างกายหลั่งฮอร์โมนให้ผิวซ่อมแซมตัวเองได้ดีที่สุด โดยการนำกรดไขมันไปสร้างเสริมส่วนสึกหรอในชั้นผิวเต็มที่ การเติมน้ำมันสู่ผิวช่วงกลางคืนจึงทำให้คุณตื่นขึ้นมาพร้อมผิวหน้าที่อิ่มเอิบนุ่มนวล จึงเป็นคำถามที่ว่า ทำไมต้องเติมน้ำมันให้ผิวยามนิทรา






    ติดตามสาระดีๆ เพิ่มเติมได้ที่ Aviance Lazada ครบเครื่องเรื่องความงาม

    หรือ @line มาคุยกันได้ที่ID:  BeeSirinoot

วันอังคารที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2558

กว่าจะสวยใสไร้ฝ้า

     สวัสดีค่ะ สมัยเด็กๆ เคยคิดว่าผิวไม่มีปัญหาก็ไม่จำเป็นต้องดูแล...และคิดเข้าข้างตัวเองว่าเราหน้าเด็ก

อิอิ...เอารูปมาให้ดูตอนนั้นเรียนเภสัชมช.อยู่ปี 5 ตอนนั้นถ่ายรวมกับน้องปี 1- ปี 4 ค่ะ  พูดง่ายๆ คือในรูป

ผึ้งแก่สุดค่ะ แต่พอถ่ายรูปออกมาก็รู้สึกว่าโอเคอยู่น้าาา พอจะดูอายุไล่เลี่ยกันเห็นด้วยไม๊คะ



     

       สมัยเรียนมหาวิทยาลัย แป้งกระป๋องเดียวจบ ครีมบำรุงก็ทาบ้างไม่ทางบ้าง ส่วนใหญ่ก็ Nivea, 

Olay ไรงี้ ตอนนั้นมีความเชื่อว่าจะครีมกระปุกละหมื่น หรือกระปุกละพัน กับกระปุกละร้อย ก็คงไม่ต่างกัน

แพงค่าโฆษณาและคิดว่ากันแดดไม่จำเป็น เคยแซวเพื่อนที่เวลาออกไปไหนต้องคลุมซะมิดว่า

บ้ารึเปล่าทำไมต้องปิดมิชิดขนาดนั้น...แต่...หลังอายุล่วงเลยเข้า 25 ปี ก็เริ่่มเห็นสัจธรรม ผิวเสีย

หมองคล้ำ ฝ้า กระ จุดด่างดำรูขุมขนกว้างและริ้วรอยเริ่มมา...อั๊ยย่ะ!! ต้องหาตัวช่วยซะละ




         ตอนนั้นมีโอกาสไปทำ part time เป็นเภสัชกรอยู่คลินิกแห่งหนึ่ง....คุณหมอให้เราจ่ายยารักษาฝ้า

อยู่ 3 ตัว คือ Tiamcinolone, Vitamin A และ Hydroquinone (Click  อ่านดูค่ะ) แต่เราเคยรู้มาว่าสารนี้ค่อน

ข้างอันตราย แต่ตอนนั้นคุณหมอบอกว่าถ้าค่อยๆ ผ่อนยาจะไม่เป็นไร ตอนนั้นด้วยความเป็นห่วงคนไข้ 

ผึ้งจึงลองกับตัวเองเพราะเริ่มมีปัญหาฝ้าและกระ....ใช้ช่วงแรกก็เหมือนดี...แต่พอหยุด รู้สึกผิวมันไหม้

และเข้มกว่าเก่า...

      

       ผึ้งได้มีโอกาสไปทำ AHA ผลัดผิว กรอหน้าด้วยเกล็ดอัญมณี รวมถึง การทำ IPL ครีมอะไรที่ว่าดี

ลองหมด รวมถึงอาหารเสริมผิวขาวที่เค้าว่าดีก็ทานแต่ผลลัพธ์ก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรนัก ช่วงนั้นได้มี

โอกาสใช้ชุดพื้นฐานยี่ห้อ Artisty ผลลัพธ์ คือหน้าชุ่มชื่นขึ้น ตอนนั้นจึงรู้ว่าครีมราคาแพงมัน

แตกต่างจากครีมในท้องตลาดอย่างสิ้นเชิง จึงเริ่มเปลี่ยนความคิด... แต่อย่างไรก็ตาม Artisty ก็ยังไม่

สามารถรักษาฝ้าผึ้งได้ ก็ยังคงหาวิธีรักษาต่อไป และได้มีโอกาสใช้เครื่องสำอางค์ของ Nuskin ชุด 360 

องศา ตัวนี้มี AHA เข้มข้น แต่ก็ยังไม่ปลื้ม 

     
        
        ต่อมาผึ้งไปทำงานอยู่ร้านยาบนห้างที่เชียงใหม่ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะมีพวกเวชสำอางค์ จึงได้มีโอกาส

ใช้ Roc, Vichy, และ Eucerine ก็ยังไม่ตอบโจทย์....ตอนนั้นตัดสินใจไปหาหมอผิวหนังที่เชียงใหม่ 

หมอบอกว่า ต้องยิงเลเซอร์ เพราะเราเป็น "กระลึก" หรือที่เรียกว่า  "Hori" ต้องใช้เครื่องมือที่เรียกว่า 

"Q-Switched Nd : YAG" ซึ่งตัวยิงlaser ตัวนี้ช่วงแรกที่ยิงกระ จะเข้มขึ้นกว่าเดิมในช่วงแรก พอดีมีน้องมา review 

ให้ดูค่ะ (click ไปดูได้ที่ http://www.jeban.com/viewtopic.php?t=90545 )   การยิง laser ตัวนี้ต้องดูแลแผลให้ดี

ค่ะ จะได้ไม่เป็นแผลเป็น มีคนรู้จักไปยิงมาเหมือนกัน แต่หลังยิงหมอให้ steroid มาทา พอแผลหายกลายเป็นรอยแดง

แทน แต่ของผึ้งคุณหมอให้เป็น Zinc มาที กับยากินลดการสร้าเม็ดสี Transamine ค่ะ ผลลัพธ์ หลังไปยิงถึง 3 ครั้ง

คือดีขึ้นเป็นที่น่าพอใจค่ะ


        หลังรักษากระลึกหายได้ประมาณ 1 ปี ก็เริ่มมีปัญหาฝ้าตามมาค่ะ ตอนนี้ซื้อรองพื้นผสมกันแดดของ Dior มาใช้

เพราะน้องบอกใช้แล้วหายแต่ก็ยังไม่เป็นที่พอใจจนได้มีโอกาสไปตรวจหน้ากับ aviance ค่ะ เจ้าหน้าที่ที่ตรวจหน้าให้

เป็นอดีตเจ้าแม่ counter brands มาก่อนเคยเป็นฝ้า แต่มาหยุดที่ aviance ตอนนั้นก็เลย ตัดสินใจ ซื้อ perfect 

radiance กับชุดดูแลผิวพื้นฐานมาใช้ ตอนแรกทาน perfect radiance อย่างเดียวก่อน ผลปรากฏหลังทานได้ 3 วันฝ้า

จางคือเร็วมากจนตกใจเพราะทานอาหารเสริมมาหลายตัวค่ะ... จึงตัดสินใจ เปลี่ยนเอาเครื่องสำอางค์ aviance มาใช้

ร่วมด้วย ส่วนครื่องสำอางค์เก่าที่ยังเหลือก็เอามาแทนแขนขาแทนค่ะ




รูปล่างนี้ เป็นรูปที่ scan หน้าสมัยเริ่มใช้ใหม่ๆค่ะ ยังมีปัญหาเยอะอยู่ค่ะ ส่วนเสื้อขาวสมัยอายุ  27 ปีค่ะ



                                   
                               
                
                                       รูปบนนี้ 30 ต้นๆค่ะ ตอนเริ่มเปิดร้านยาใหม่ๆ


พอใช้ aviance ต่อเนื่องก็เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ ค่ะ มีแต่คนทักไปทำอะไรมาขาวใสขึ้น สวยขึ้น ดูเด็กลง



ภาพนี้  No App นะคะ ลองดูเทียบกับก่อนใช้ได้





        ผลการเปรียบเทียบสภาพผิวหลังจากใช้ aviance อย่างต่อเนื่อง เปลี่ยนแปลงไปเยอะมากๆ 




           ทุกวันนี้ใช้มาเข้าปีที่ 5 ละ มีสินค้านวัตกรรมใหม่ๆ มาออกมาเรื่อยๆ ต้องขอบคุณ Aviance 

ที่ทำให้เรามาดีขึ้นเยอะเลย ตอนนี้อายุก็เกิน 35 ปี มาแล้ว แต่ดูดีกว่าสมัยอายุ 27 ปีมาก เลยอยากแบ่งปัน

ให้เพื่อนๆ ได้ลองใช้กันเดี๋ยวคราวหน้าจะมาเล่าให้ฟังว่าใช้ aviance แล้วดีอย่างไรให้ฟังค่ะ วันนี้แค่แชร์

ผลลัพธ์ส่วนตัวก่อนค่ะ



รูปนี้ถ่ายกับน้องที่เคยใช้ครีมผสม steroid มา 

ไว้มีโอกาสจะมาเล่าถึงผลข้างเคียงของการใช้ครีมมี steroid ให้ฟังค่ะ



พัฒนาการการใช้ aviance ค่ะ



จริงๆยังมีเรื่องความสวยความงามเล่าให้ฟังอีกเยอะ ถ้าใจร้อนอยากคุยเป็นการส่วนตัวก็โทรมาคุย

โดยตรงกับผึ้งได้ที่เบอร์ 081-5304391 Line:BeeSirinoot 


ไว้เจอกันใหม่ blog หน้านะคะ หวังว่า review นี้จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ นะคะ